ขนาดเจอบ๊วยยังแย่! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู เชือด นอริช ก่อนบุกลิเวอร์พูล

เริ่มโดย ผลบอลวันนี้, เม.ย 17, 2022, 11:12 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

ผลบอลวันนี้



ขนาดเล่นในบ้านเจอทีมบ๊วยของตารางอย่าง นอริช แท้ๆ

    พลพรรคปีศาจแดงยังต้องพบกับกระเสือกกระสนและทุลักทุเลกว่าจะเอาชนะคู่แข่งได้เลย...เฮ่ออออ !!!



    1. หลังสะสมได้แค่แต้มเดียวจาก 2 นัดล่าสุด ราล์ฟ รังนิค จัดตัวผู้เล่น 11 คนแรกแบบเน้นเกมรุกเต็มพิกัด เพื่อพิชิตชัยให้จงได้ ด้วยการไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับเลยสักคนเดียว

    เจสซี่ ลินการ์ด ถูกส่งลงมาเล่นเป็น 'หน้าต่ำ' อยู่ข้างหลังหัวหอกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยวาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ ปอล ป๊อกบา เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง

    ประมาณว่าประเมินว่าเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด คงเป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว

    ไม่จำเป็นต้องมีกองกลางตัวรับก็ได้ !!!

    นี่แหละคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม พวกเขาถึงเสีย 2 ประตูแบบง่ายๆ อีกแล้ว



    2. เกมรุกของปีศาจแดงก็ดูวูบวาบดีนะครับ แถมยังออกนำก่อน 2-0 อีกต่างหาก

    ดูเผินๆ เหมือนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะนำห่างตั้ง 2 ประตู

    แต่สังเกตได้เลยว่าเวลา นอริช ทำเกมรุกขึ้นมาแต่ละครั้งมักจะทะลุเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วหาจังหวะจบได้ตลอด

    นี่คือผลอันเกิดจากการปราศจากมิดฟิลด์ตัวรับคอยเบรคเกมรุกของคู่ต่อสู้ - แผงหลังจึงต้องรับภาระหนักมากเกินไป

    ประตูตีไข่แตกของ นอริช มิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง 'คุณป๊อก' ไม่ยอมถอยลงมาคุมพื้นที่ และไม่ตามคู่แข่งที่สอดตัวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ขณะที่กองกลางคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมถอยลงมาช่วยเกมรับ ปล่อยให้ผู้มาเยือนดาหน้าขึ้นมาทำประตูง่ายๆ เลย

    ประตูตีเสมอเป็น 2-2 ก็เช่นกันที่ไม่มีใครเข้าไปเบรคคู่แข่งตรงกลางพลางปล่อยให้เขาจ่ายทะลุช่องแบบสบายๆ

    ทุกครั้งที่ นอริช บุกขึ้นมา ผู้ชมทางบ้านอย่างผมก็เห็นอาการ 'หัวซุกหัวซุน' ของ แมนฯ ยูไนเต็ด



    3. เกมรุกก็ใช่ว่าจะดีนะครับ - ขอโทษ 

    กระหน่ำได้ถึง 3 ดอกก็จริง แต่ทั้ง 3 ประตู ไม่ได้มาจากการเข้าทำที่เป็นระบบเลยนะครับ

    ประตูแรก แอนโทนี่ อิลันก้า ใช้ความขยันไปฉกลูกเขามาจ่ายให้พี่โด้กระทุ้ง และเป็นความผิดพลาดของคู่แข่ง

    ประตูที่ 2 มาจากลูกเตะมุมที่ อเล็กซ์ เตลลิส เปิดให้พี่โด้โขกเข้าไป

    และประตูชัยมาจากการตะบันฟรีคิกของพี่โด้

    ไม่มีประตูไหนมาจากการต่อบอลทำชิ่งเข้าไปยิงเลย



    4.เมื่อเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ปั่นป่วนเหลือหลายอย่างที่อธิบายถึงสาเหตุของมันไปแล้ว

    ราล์ฟ รังนิค แก้ไขเด้วยการส่งมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง เนมานย่า มาติช ลงมาเพื่อชะลอเกมรุกคู่แข่งพลางพักบอลในแดนกลางไปในตัว

    อาการของปีศาจแดงจึงดีขึ้น สามารถครองบอลบุกใส่ผู้มาเยือนได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น ก่อนที่กุนซือชาวเยอรมันจะปรับหมากอีกครั้ง ด้วยการส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ ฆวน มาต้า ลงมาแทน ปอล ป๊อกบา กับ อเล็กซ์ เตลลิส

    ดิโอโก้ ดาโลต์ ถูกโยกจากตำแหน่งแบ็คขวาไปเป็นแบ็คซ้าย 'แรชชี่' ลงมาเล่นเป็น 'หน้าขวา' แล้วถอย แอนโทนี่ อีลันก้า ไปเป็นแบ็คขวา เพื่อเน้นเกมรุกทางด้านขวาเต็มที่

    หมากนี้เสี่ยงนะครับ ด้วยดาวรุ่งทีมชาติสวีเดนไม่ใช่แบ็คโดยอาชีพ แต่ก็ช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะ เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกจากการขึ้นมาเติมเกมรุกของเจ้าหนูสิงห์นักเตะอย่างผู้นี้



    5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำแฮตทริคได้อีกครั้ง แถมลงมาช่วยเกมรับในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาตัวรอดจากการถูกบ๊วยติดคออย่างหวุดหวิด

    เกมรับยังคงเป็นจุดอ่อนของทีมชุดนี้ ขณะที่เกมรุกก็หามาตรฐานอะไรไม่ได้ เพราะบางนัดก็ยิงได้เยอะ บางนัดก็ยิงไม่ได้ดื้อๆ

    ความพ่ายแพ้ 3 เกมติดต่อกันของ อาร์เซน่อล และความปราชัยในเกมล่าสุดของ สเปอร์ส เหมือนจะช่วยกระชากความหวังในการคว้าอันดับ 4 ของปีศาจแดงให้กลับมาอีกครั้ง

    ปัญหาคือเกมต่อไปต้องบุกไปเยือน แอนฟิลด์

    ขอเรียนตามตรงว่าด้วยเกมรับที่รั่วไหลแบบนี้ และเกมรุกที่หามาตรฐานอะไรไม่ได้

    ผมแทบมองไม่เห็นทางรอดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เลย !!!

Similar topics (5)