[ข่าวกีฬารอบโลก]

อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ทีมชาติไทย ยู-23 ของเรา จะลงเตะนัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี ศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน กับศึกหนักต้องบรรเลงเพลงแข้งกับ "โสมขาวพลังหนุ่ม" เกาหลีใต้ ซึ่งเป้าหมายเดียวของไทยคือ ต้องมีแต้มสถานเดียว

    สถานการณ์ ณ เพลานี้ นักรบหนุ่มจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา นำเป็นจ่าฝูง มี 4 แต้ม ผลต่างประตูได้เสียเท่ากับ เกาหลีใต้ แต่ไทยดีกว่าตรงแฟร์เพลย์ ส่วนอันดับ 3 เวียดนาม มี 2 แต้ม หากชนะมาเลเซีย เสียบเข้ารอบน็อคเอ้าท์ทันที หากไทยเกิดปราชัยต่อเกาหลีใต้

"เพ่งสมาธิ, วินัยต้องแกร่ง"



    แม้ผลงานเกมถลุง มาเลเซีย ขาดลอย 3-0 อาจเป็นชัยชนะที่สุดยอด ทว่ายังไม่เพอร์เฟคไปทั้งหมด เพราะตลอด 90 นาที ลูกทีมของ "เอริค เทน โย่ง" ยังมีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เห็นอยู่ โดยเฉพาะเกมรับนึกจะพลาด ก็พลาดง่าย ๆ แต่โชคดีที่เกมนั้น นพพล ละครพล มือกาวจอมหนึบที่ฟอร์มเข้าฟักช่วยเซฟอุตลุดเก็บคลีนชีตไว้ได้

    แต่ศึกครานี้ การมาดวลกับ เกาหลีใต้ จะผิดพลาดหรือเสียสมาธิแม้แต่วินาทีเดียวไม่ได้เด็ดขาด เกมรับต้องมีวินัยและช่วยกันเล่นแบบสุด ๆ มิเช่นนั้นเกิดพลาดท่าขึ้นมาโอกาส จะถูกเด็กหนุ่มจากแดนกิมจิ ถลกหนังช้างศึกแบบง่ายดายเป็นแน่แท้

"จับตาย 4 แข้งนอกโสม"



    ต้องบอกเลยว่าขุมกำลังแด จัง กึม ดูดีกว่าไทยเราพอสมควร โดยเฉพาะชุดนี้มีผู้เล่นเกาหลีแท้ ๆ ไม่มีลูกครึ่งอะไรทั้งสิ้น ที่ออกไปโลดแล่นอยู่ในเวทีต่างแดนถึง 4 คนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อี คัง อิน (มายอร์กา-สเปน),ฮอง ฮยุค ซอค (LAKS-ออสเตรีย),จอง ซาง บิน (กราสฮอปเปอร์-สวิสเซอร์แลนด์) และ โอ เซ ฮุน (ชิมิสึ เอส พัลส์-ญี่ปุ่น)
 
    หากทั้งหมด 4 คนลงสนามพร้อมกัน คงปั่นป่วนเกมรับของไทยไม่มากก็น้อย เพราะทั้ง 4 คนเป็นแข้งเกมรุกทั้งหมด อยู่ที่ว่าจะสามารถต้านทานเกมบุกของเขาได้หรือไม่ แต่สิ่งที่จะต้องจำไว้ให้ขึ้นใจก็คือ อย่าเสียประตูเร็วเด็ดขาด หาไม่แล้วการไปทวงประตูคืนเสมือนเป็นเวียดนามที่ทำมาแล้ว จะไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเกมนั้นเกาหลีใต้เหลือ 10 คน ก่อนจะถูกพลพรรคสกุลเหงียนทะลวงตามตีเสมอท้ายเกม

"รุก-รับต้องรัดกุม"



    การตัดสินใจต้องแน่วแน่ทุกจังหวะ เกมรุกยามขึ้นเกมไปแล้วต้องจบสกอร์ให้ได้ จะเข้าหรือไม่เข้าเป็นอีกเรื่อง แถมยังเป็นการข่มขวัญเขย่าหัวใจกิมใจเป็นระยะ ๆ ไม่มากก็น้อย และสิ่งที่ไม่ควรทำคือการไปเสียบอลบริเวณพื้นที่สุดท้ายในแดนโสมขาว มิเช่นนั้นเป็นเรื่องแน่การการโต้กลับของพวกเขา
 
    ในส่วนเกมรับ การเข้าบอลต้องโฉงฉาง ไม่จำเป็นอย่าเสียฟาวล์ง่าย ๆ ยิ่งหน้ากรอบเขตโทษต้องห้ามทำ รวมถึงการตัดสินใจต้องเด็ดขาด จะเคลียทิ้ง ไม่เคลียทิ้ง จะต่อบอลสั้น หรือต่อบอลยาว ต้องเพอร์เฟคที่สุด และอีกเรื่องต้องควบคุมอารมณ์ให้อยู่หมัด อย่าตบะแตก หัวร้อนง่าย ๆ อย่างเช่นที่เคยผ่านมา

"4 จตุรเทพฝากด้วย"



    นักเตะพลังหนุ่มสายเลือดสยามชั่วโมงนี้ หากพูดถึงผลงานของแข้งที่ดีสุดจากเกมที่แล้ว ชื่อของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ตะบันคนเดียว 2 ตุง, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่ตะบัน 1 ตุง จ่าย 1 ดอก, กฤษดา กาแมน กัปตันทีมผู้ปิดทองหลังพระ รวมถึง เบนจามิน เจมส์ เดวิส ดาวเตะสุดยอดสไตล์พริ้วไหวดั่งสายน้ำ
 
    ทั้ง 4 คนนี้ถือเป็นแข้งที่เจ๋งมาก ๆ จากเกมอัดมาเลเซีย นี่ยังไม่รวม นิโคลัส เก่งเขตกิจ มิคเคลสัน แบ็คขวาพลังม้าคนใหม่ หรือแม้แต่ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง พวกเขาเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในเกมอย่างแน่นอน หากรักษาฟอร์มต่อเนื่องทั้งหมดได้ เชื่อเหลือเกินว่าจะต่อกรกับ เกาหลีใต้ ได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวศักดิ์ศรีโดยปริยาย

เชื่อมั่น "เอริค เทน โย่ง"



    มันเป็นแมตช์ที่ค่อนข้างสำคัญของทีมชาติไทย และยังมองว่าสำคัญกับ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ อย่างที่ทราบช่วงที่ผ่านมากระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งคำสบประมาทจากแฟนบอลชาวไทยบางกลุ่ม ที่ถาโถมราวกับคลื่นสึนามิพัดเข้ามาใส่ "เอริค เทน โย่ง" คนนี้แทบทุกครั้ง
 
    เกมนี้จะเป็นแมตช์ที่เราจะได้เห็นกึ๋นการเป็นกุนซือของ "วรวุธ" อย่างแท้จริง และหากบทสรุปสิ้นเสียงนกหวีด ไทย มีแต้มกับ เกาหลีใต้ ทะลุเข้ารอบ 8 ทีม อยากรู้เหมือนกันว่า ชายร่างท้วมวัย 50 ปีคนนี้ จะยังถูกแฟนบอลบางส่วนด่าทอกันอีกหรือไม่ หรือสวนทางกลับมาชื่นชม ยกย่องว่า "โค้ชโย่ง" นี่แหละเป็นกุนซือที่เข้าใจเด็กชุดนี้ที่สุดมากกว่าผู้ใด
 
    "สิ่งที่เราวางแผน มันอาจดูขัดใจบ้าง แต่พวกคุณเชื่อไหมว่า ... ฟุตบอลมันถูกลิขิตไว้แล้ว ถ้ามันเข้า ยังไงมันก็ต้องเข้า" !!