[ผลบอลวันนี้]

หลังเกมสองคู่ลุ้นแชมป์ แมนฯซิตี้ vs ลิเวอร์พูลแต้มห่างกันหนึ่งคะแนน หลายคนบอกนี่คือนัดตัดสินแชมป์แม้เหลืออีก 7 นัดก็ตาม แต่ผลที่ออกมายังบอกอะไรไม่ได้

แทกติกสองโค้ช



เซอร์ไพรส์ของ เป๊ป ที่ส่ง กาเบรียล เชซุส ลงเล่นตัวจริงทั้งที่ไม่ใช่ตัวหลักมาหลายเดือนแล้ว นัดสุดท้ายที่เล่นตัวจริงคือปลายเดือนม.ค. ขณะที่คนอื่นๆ ไม่พลิกโผอะไร ส่วนแบ๊กโฟร์ นำโดย จอห์น สโตน กับ อายเมอริก ลาปอร์ก แบ๊กสองข้างไคล์ วอล์คเกอร์ และ กานเซโล ส่วนแดนกลาง แบร์นาโด ซิลวา, โรดริโก และ เดอ บรอยน์ โดย กุนโดกันสำรอง ขณะที่ ข้างหน้าสามคนนี่แหละน่าสนใจเมื่อ เชซุส ลงเล่นตัวจริง กับ โฟเดน และ ราฮีม โดยตำแหน่งการยืนนั้น เชซุส เป็นปีกขวา ราฮีม หน้าปลอม และ โฟเดน ทางซ้าย

    คลอปป์ เลือกนักเตะที่พร้อมสมบูรณ์ที่สุดและไม่มีอะไรพลิกโผมาก แบ๊กโฟร์ขาประจำ เทรนต์, ฟานไดจ์, มาติป,  รอบโบ  แดนกลางตัวเก๋า ฟาบินโญ, เฮนโด และ ติอาโก ส่วนตัวทำนั้น โชตา, มาเน และ ซาลาห์ ขณะที่ ฟีร์มีโน, ลุยส์ ดิอาส สำรอง ในระบบเดียวกัน 4-3-3

เกิดอะไรขึ้นครึ่งแรก

    ต้องชมเป๊ป วางแผนมาละเอียดเพื่อโจมตีเกมรับลิเวอร์พูล

เพรสซิงแดนบน



สองทีมเล่นเหมือนกันคือไล่เพรสแดนบน เพื่อบีบให้การออกบอลจากผู้รักษาประตูและกองหลังนั้นยากขึ้น ก็สลับกันทำแบบนั้น แต่ปรากฏว่าเป็น ซิตี แก้เพรสได้ก่อนแล้วได้ลุ้นประตูจาก เดอ บรอยน์ แทงช่องให้ เชซุส ที่จับมายืนปีกขวาเหมือนต้นซีซั่น หลุดริมเขตแล้วผ่านให้ "หน้าปลอม" ราฮีม เดี่ยวๆยิงติด เบคเกอร์​ซะงั้น ...แต่จากนั้นสองนาที ซิตี ได้ฟรีคิก แล้วเล่นเร็ว แบร์นาโด ซิลวา เด็กหงส์ยังไม่ตื่นตัว บอลเลยถึง เดอ บรอยน์ ก่อนหลอก ฟาบินโญ แล้วสับไกยิงแฉลบ มาติป พุ่งกระแทกเสาเข้าไป ซิตี นำ1-0

เปิดบอลข้ามไลน์

    ตรงนี้สำคัญครับ เพราะ เป๊ป เลือกวิธีการเล่นไม่เน้นต่อบอล ไม่เน้นครองบอล จังหวะที่ ลิเวอร์พูล พยายามขึ้นมาเพรสเมื่อพวกเขาบิลด์อัพในแนวรับ มี ซิลวา ดรอปลงมาเพื่อหาจังหวะเปิดบอลข้ามไลน์กองหลัง ทั้งสองฝั่ง ด้วยเพราะ "ไฮไลน์ ดีเฟ้นส์" ของแนวรับหงส์ ซึ่งเกมนี้เช็คล้ำหน้าได้ยากเพราะ ฝั่งซ้าย เป๊ป ใช้  กานเซโล สอดขึ้นมาจากแถวสอง หนีกับดักล้ำหน้า

    จุดนี้ทีมเป๊ป ทำได้ผล การวางข้ามไลน์กับแผงหลังที่ดันสูง แถมแม่น และตัวข้างนั้นมีความเร็วอีกต่างหาก ทำให้หลุดทะลุไลน์หลายครั้ง เพียงแต่การผ่านเข้ากลาง...เฉียดไปเฉียดมา ไม่ได้ยิง

    ดังนั้นตัวเลขการผ่านบอลครึ่งแรกของทีมเป๊ป จึงมีแค่ 260 ครั้งซึ่งน้อยกว่าปกติ เพราะ เป๊ป ต้องการเล่นบอลหลังไลน์ลิเวอร์พูลมากขึ้น บอลจึงทะลุแดนกลาง ซึ่งมีหน้าที่คอยเพรสแย่งบอล

เชซุส ทีเด็ด



นี่อาจเป็นหมากที่เซอร์ไพรส์ของ เป๊ป จังหวะ 2-1 นั้น กานเซโล ครอสบอลข้ามไลน์กองหลังที่พยายามเช็คล้ำหน้า แต่ เทรนต์ ไม่รู้ว่า เชซุส อยู่ด้านหลัง ...เดี่ยวเข้าไปแปกระแทกคานขึ้นนำก่อนจบครึ่งแรก

หงส์ตีเสมอเร็ว



ครึ่งหลังเริ่มเร็ว นักเตะซิตี้ ยังไม่ตื่นตัว เหมือนสมาธิยังไม่พร้อม โดนโจมตีเร็ว จากเทรนต์ มาที่ ซาลาห์ แล้วไหลเข้าช่องให้ มาเน หลุดเข้าไปยิงตีเสมอ 2-2 น.46 เป็นจังหวะทีเผลอก็ว่าได้ แต่ถือว่าลงโทษซิตี้ แล้วได้ประตูสำคัญเพื่อเริ่มครึ่งหลังได้ง่ายขึ้นกว่าการตาม

ทีมเรือใบงานเนี้ยบกว่า

    เกมนี้ถ้านับจำนวนครั้งที่นักเตะลิเวอร์พูลเสียบอล...นี่เพียบเลย การให้บอลของลิเวอร์พูล ผิดพลาดตั้งแต่แนวรุกจนถึงแดนกลาง ทำให้ แมนฯซิตี้ได้บอลรุกเร็ว โจมตี ซึ่งก็สร้างความปั่นป่วนได้เยอะ ต้องยอมรับว่าความเนี้ยบในการเล่นซิตี้ดีกว่า แม่นกว่า และโจมตีได้ทะลุทะลวงกว่า

ปิดเกมติอาโก



อีกแทกติกหนึ่งที่ เป๊ป ใช้คือการให้ตัวใกล้เดินเข้าหา เมื่อ ติอาโก ถอนไปเล่นบอลกับ ฟานไดจ์ เพื่อไม่ให้ ติอาโก ออกบอลได้ง่ายๆ ทั้งสั้นและยาว ตรงนี้เลยทำให้ ติอาโก ออกบอลไม่ได้ และหายไปจากเกมจนถึงนาทีที่ 70

แดนกลางหงส์ เป็นรอง

    ทั้งฟาบินโญ, เฮนโด และ ติอาโก เป็นรองแมนฯซิตี ทั้งการแย่งบอลและเสียบอล ตรงนี้ชัดเจน เลยทำให้หลายครั้งพอเสียบอลแดนสอง ซิตี ทะลุขึ้นมาแดนสามหงส์แดงได้เร็ว แต่ยังดีที่แนวรับหงส์ ยังพอประคอง ดีเลย์เกม ช่วยไว้ได้ จังหวะจบจึงมีน้อย ส่วน แบร์นาโด ซิลวา , โรดริโก และ เดอ บรอยน์ ทำได้ดีกว่าชัดเจน เรียกว่า ฟาบินโญ, ติอาโก ต้องตัดฟาวล์ จนโดนใบเหลือง

กานเซโล&แบร์นาโด ซิลวา



สองคนนี้ไม่รู้ให้ใครได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เพราะเล่นตามแทกติกของ เป๊ป ทุกอย่าง โดยเฉพาะ ซิลวา ท่ีวิ่งไม่มีหมด ทั้งรุกและรับ ช่วยเพรสซิงได้ดีทั้งที่เล่นเกมกับแอต.มาดริด มา 90 นาที เมื่อกลางสัปดาห์เกมนี้ก็ยังเล่นต่อเนื่อง วิ่งไม่มีหมด มีส่วนกับการเชื่อมเกมดีมาก

    ถามว่า "แต้มเดียว" ไปทางไหน

    บางทีผมแอบคิดว่าการที่ มาห์เรส ยิงข้ามคานจังหวะสุดท้ายของเกม ไม่เข้า มันเหมือนการเสียโอกาสหรือไม่ เรือใบน่าชนะจากจังหวะนั้น มันคือประตูตัดสินชัยชนะได้เลย



  เมื่อทำไม่ได้ มุมเรือใบนั้นน่าเสียดายที่หายไปสองคะแนน ส่วนลิเวอร์พูลน่าจะพอใจที่ออกมาด้วยผลแบบนี้

    แน่นอน... "เรือใบ" ยังนำอยู่ ถ้าไม่คิดมาก แต่การนำแต้มเดียวก็ไม่ง่ายเช่นกัน เพราะทีมที่ไล่ตามคือลิเวอร์พูล ผลที่ออกมาแบบนี้ ก็ทำให้การลุ้นแชมป์ยังคงสนุกต่อไปอีกละครับ ขึ้นกับว่าใครจะเล่นพลาดกับ7 นัดที่เหลือ

    แม้ว่าโปรแกรมของเด็กหงส์ดูจะหนักกว่า แมนฯซิตี ก็ตามครับ