(https://static.siamsport.co.th/column/2022/04/25/column202204250724625.jpg)
มาดแม้นว่าจะอึดอัด กระสับกระส่าย และหงุดหงิดตามง่ามตีนเล็กน้อยถึงปานกลาง
สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายมีชัยในศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ พลางบรรจงถีบคู่อริอย่าง เอฟเวอร์ตัน ไปจ่อปากเหวแห่งการตกชั้น
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1393397121-594x594.jpg)
1. การศึกครั้งนี้เดิมพันสูงยิ่งนักนะครับ
ลิเวอร์พูล ต้องการชัยชนะเพียงสถานเดียว เพื่อไล่บี้ แมนฯ ซิตี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้พลาด
เอฟเวอร์ตัน ก็ห้ามแพ้เช่นกัน เพราะมีโอกาสเด๊ดห่าแล้วหล่นลงไปในแชมเปี้ยนชิพค่อนข้างสูง
แต่หงส์แดงเหนือกว่าบานเบอะ ทั้งคุณภาพของทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น แถมอยู่ในบ้านกำลังใจล้นหลาม
ครึ่งแรกจึงครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว แต่กว่าจะหาจังหวะทำประตูได้เป็นครั้งแรก ต้องรอถึงนาทีที่ยีบเบ็ด แถมยิงไม่ตรงกรอบเลยสักครั้งเดียว
จุดหนึ่งเป็นเพราะ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วางกลยุทธมารัดกุมมาก ขณะลูกทีมก็ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด คือถอยมาตั้งรับในแดน คุมพื้นที่ในกรอบเขตโทษได้แน่นหนาพลางระมัดระวังเกมริมเส้น โดยช่วยกันรุมแย่ง ช่วยกันซ้อนบนความขยันขันแข็ง
แถมจังหวะ 50-50 ยังบวกตลอดจนเจ้าบ้านเล่นไม่ถนัด และหาทางเข้าไปในกรอบเขตโทษไม่ได้เลย
ย้ำว่าไม่ได้เลย
เล่นเอาพวกพรี่ๆ งุ่นง่านอย่างอยู่ไม่สุขกันเลยทีเดียว
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1393392623-594x594(1).jpg)
2. จบครึ่งแรก 0-0 ถือว่า เอฟเวอร์ตัน ทำสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว
อารมณ์นั้น 'เด็กหงส์' คงหวังว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะแก้เกมให้ดีขึ้นได้ในครึ่งหลังพลางแทะเล็บตัวเองเล่นแทนเม็ดก๋วยจี๊
ความแตกต่างที่ผมเห็นในครึ่งหลังคือ ลิเวอร์พูล เร่งเกมรุกของตัวเองให้เร็วขึ้น แล้วพยายามเปิดบอลเข้าไปวัดในกรอบเขตโทษมากขึ้น
10 นาทีแรกของครึ่งหลังจึงบุกขย่มอย่างไม่ยั้งหยุดแบบ unstoppable sex machine
จังหวะนั้น เอฟเวอร์ตัน ยังไม่เพลี้ยงพล้ำก็จริง แต่เริ่มออกอาการจุกเจ็บเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนโดนตุ๊ยท้องติดๆ กันหลายดอก
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1393401254-594x594.jpg)
3. หลังจากถล่มหมัดเข่าศอกใส่ท้องน้อยของผู้มาเยือนแบบซอยยิกแล้วยังกะซวกตาข่ายไม่สำเร็จ เราก็ได้เห็นทีเด็ดจากกุนซือระดับอ๋องอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ไม่รอช้าในการเพิ่มอาวุธหนักเข้าไป
อาวุธหนักที่เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉินอย่าง ลุยส์ ดิอาซ กับ ดิว็อค โอริกี้ ถูกส่งลงไปแทน ซาดิโอ มาเน่ กับ นาบี เกอิต้า พลางปรับหมากจาก 4-3-3 เป็น 4-2-4 พร้อมระบบหัวหอกคู่สะเดิ๊บดากมหาประลัย
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1393402489-594x594.jpg)
4. แล้วก็ได้ผลจริงๆ ซะด้วย
เมื่อ ลิเวอร์พูล มีตัวเลือกในกรอบเขตโทษมากขึ้น เกมรับของทีมลูกอมจึงป่วนปั่นมากขึ้น
ในที่สุดทำนบของ เอฟเวอร์ตัน ก็แตกจนได้จากจังหวะที่ดาวเตะเหนือมนุษย์ได้ครองบอล แล้วจ่ายให้ โม ซาล่าห์ เบิ้ลลูกไปลงหน้าผากของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่พุ่งเข้ามาในเขตโทษอย่างเหมาะเหม็ง
เท่านั้นไม่พอ
ตัวสำรองอีกคนอย่างไอ้จิ้งเหลนไฟแห่งโคลอมเบียยังกระชากลากเลื้อย แถมโชว์ลีลาดูดบอลลงในท่ากวางเหลียวหลัง น่าตื่นตาตื่นใจดีนักแล ก่อนมีส่วนช่วยให้ เดอะ ค็อป ได้ประตูที่ 2
หมายความว่าการแก้เกม & การเปลี่ยนตัวของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นี่แหละที่นำมาซึ่งชัยชนะ
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240211792-594x594.jpg)
5. ข้อนี้ขอกล่าวถึง เอฟเวอร์ตัน อีกครั้ง
ยอมรับตามตรงว่าพวกเขาห้ำหั่นกับ ลิเวอร์พูล ได้สะเด่ากว่าทีมที่ชาติตระกูลสูงกว่าอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด อีกนะครับ
แผนการเล่นชัดเจนว่าต้องการอะไร
คือเน้นเกมรับ ผู้เล่นก็ทำตามแผนอย่างมากด้วยวินัย แถมใจสู้ บู๊ไม่ถอย
เพียงแต่ ลิเวอร์พูล และนาทีนี้กลายเป็น 'มอนส์เตอร์' ไปแล้วนะครับ จึงยากที่จะต้านทานอยู่
เมื่อกลับออกจาก แอนฟิลด์ พร้อมความปราชัย สถานการณ์ของพวกท๊อฟฟี่เมนล่อแหลมต่อการตกชั้นอย่างจงหนัก เพราะตามหลังทีมอันดับ 17 อย่าง เบิร์นลี่ย์ อยู่ 2 แต้ม แม้จะแข่งน้อยกว่า 1 นัด แต่ก็ต้องชนะในเกมตกค้างเท่านั้น
โทษฐานคู่แข่งร่วมเมือง รวมถึงวีรเวรที่พวกเขาก่อเอาไว้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (ทำ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ ติอาโก้ อัลคันตาร่า เจ็บยาว) พวกพรี่ๆ จึงสะใจกันแบบสุดขีดคลั่งในโลกโซเชี่ยล
ว่าแล้วก็แช่งชักหักกระดูก เอฟเวอร์ตัน ให้ประสบกับความชิบหายว่ายป่วงระดับกระเด็นตกชั้นไปเลย
น่ากลัวมาก-ขอบอก
(http://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1393394923-594x594.jpg)
อย่างไรก็ตาม
แม้จะพอเข้าใจถึงเหตุผลที่บอกว่าทำไม เอฟเวอร์ตัน ถึงต้องงัด 'วิชามาร' ออกมาใช้ เช่นเล่นแรงๆ อัดหนักๆ พุ่งล้ม นอนนานๆ ยั่วยุ ถ่วงเวลา และอื่นๆ อีกสารพัด
แหม่...ก็สภาพทีมพวกเขาไม่ค่อยสมประกอบ ฟอร์มการเล่นก็เป็นรอง มันก็ต้องใช้เหลี่ยมเล่ห์ และกลยุทธ์ทางด้านมืดแบบนี้แหละ
แต่ถ้าผมทะลึ่งแสดงความเห็นอกเห็นใจพลางสงสารทีมลูกอมเหมือนที่สงสารตัวเอง
ชะรอยว่าน่าจะโดนทัวร์ลงไปด้วย
...ว่าแล้วไม่เอาดีกว่า อย่าลืมว่าต่อต้านไม่ได้ต้องเข้าร่วม
ตกชั้นไปเลยไป เล่นแบบนี้ได้ไง พวกพรี่ๆ เขาไม่พอใจนะโว้ย ทีหลังอย่าทำแบบนี้ จำไว้ ไปๆ ชิ่วๆ แชมเปี้ยนชิพรออยู่นะ
ริชาร์ลิสัน มึงกลับไปนอนที่บ้านซะ จอร์แดน พิ๊คฟอร์ด มึงโดนไป 2 ดอก ทำไมไม่นอนเล่นอีกล่ะ สะใจโว้ยยยยย แบล็บๆๆๆๆ