(https://static.siamsport.co.th/news/2022/05/23/news202205230454297.jpg)
ลิเวอร์พูล สร้างความสุขให้กับสาวก "เดอะ ค็อป" อย่างแท้จริงในฤดูกาลนี้ แม้ว่าพวกเขาจะพลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแบบเฉียดฉิวก็ตาม แต่ "หงส์แดง" ก็ยังมีแชมป์ติดไม้ติดมือเช่นกัน
"เดอะ เร้ดส์" มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ในซีซั่นนี้ เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และเอฟเอ คัพ มาครอบครอง และยังมีโอกาสแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะก่อนเกมสุดท้ายทีมตามหลังจ่าฝูงเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น
แม้ว่าสุดท้ายแล้ว "เรือใบสีฟ้า" สามารถผงาดคว้าแชมป์ลีก 4 สมัยในรอบ 5 ปีก็ตาม แต่ผลงานของ ลิเวอร์พูล ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะพวกเขาแพ้แค่ 2 เกมเท่านั้นในลีกฤดูกาลนี้ โดยเกมที่พ่ายต้องย้อนไปถึงช่วงกลางเดือนธันวาคมในแมตช์เยือน เลสเตอร์ ซิตี้ (แพ้ 0-1)
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240841671-594x594.jpg)
ที่สำคัญทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถตะบันตาข่ายคู่แข่งไปถึง 94 ประตู เป็นรองแค่แชมป์ทีมเดียวเท่านั้น และเสียเพียง 26 ประตูเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ นอกจากนี้ทีมยังสร้างสถิติที่สุดยอดในเกม "แดงเดือด" เพราะ 2 แมตช์เหย้า-เยือน ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถยิงประตูรวมถึง 9-0
ฟอร์มของ "หงส์แดง" ยอดเยี่ยมทั้งการเล่นเป็นทีมและความสามารถส่วนตัว โดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวลีกร่วมกับ ซน ฮึง-มิน ด้วยจำนวนประตู 23 ลูก แถม "บังโม" ยังเป็นจอมแอสซิสต์ เมื่อจัดการส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมซัดไป 13 ครั้ง และมี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รั้งอันดับ 2 ตามหลังเพียง 1 แอสซิสต์เท่านั้น
อีกหนึ่งตำแหน่งที่มีความสำคัญมากๆ ของ ลิเวอร์พูล นั่นก็คือผู้รักษาประตู โดย อลีสซง เบ็คเกอร์ โชว์ความเหนียวหนึบช่วงทีมให้รอดพ้นจากหายนะมาหลายต่อหลายแมตช์ ที่สำคัญในฤดูกาลนี้เขาสามารถทำได้ถึง 20 คลีนชีต ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "หงส์แดง" มีลุ้นแชมป์ส่วนหนึ่งก็มาจาก "พ่อหมี" นี่แหละ
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240839176-594x594.jpg)
อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่าแปลกใจเรื่องหนึ่งที่แฟนบอล "หงส์แดง" อยากรู้มากๆ นั่นก็คือ คล็อปป์ ไม่ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนเลยในซีซั่นนี้ ฉะนั้นจึงต้องมาลุ้นว่าในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของเกมลีก นายใหญ่ชาวเยอรมัน จะได้รับเกียรตินี้หรือไม่
แม้ว่าภารกิจเป็นทีมแรกในวงการลูกหนังที่คร้า 4 แชมป์เป็นทีมแรกมันไม่เกิดขึ้นแล้ว แต่ "หงส์แดง" ยังมีลุ้นคว้าแชมป์โทรฟี่ 3 รายการ หลังจากที่พวกเขาได้มาประดับในตู้โชว์ที่แอนฟิลด์ 2 แชมป์ก็คือเอฟเอ คัพ กับ คาราบาว คัพ
ฉะนั้นภารกิจสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาลนี้นั่นก็คือเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พบ เรอัล มาดริด ในวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. ถ้าหาก "หงส์แดง" พลาดไม่ได้แชมป์การได้ 2 โทรี่ฟุตบอลถ้วยในประเทศก็อาจทำให้แฟนบอลมีอาการผิดหวังอยู่บาง
กระนั้นถ้า คล็อปป์ แอนด์ โค. สามารถดับความเกง่ฉกาจของ "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ "บิ๊กเอียร์" เป็นสมัยที่ 7 ของสโมสรได้ การได้ 3 แชมป์ฟุตบอลถ้วยก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยากจะทำได้ และต้องภูมิใจกับสิ่งนี้